แม้ว่าสถานการณ์ความขัดแย้งต่างๆ ในปัจจุบันจะมีทีท่าว่าดีขึ้นแล้ว แต่ด้วยความที่คนรุ่นใหม่ตระหนักถึงความสำคัญของการลงทุน โดยเฉพาะทองคำ เป็นเหตุทำให้ใครหลายคนนำเงินเก็บที่มีมาซื้อหรือลงทุนในทองคำอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลทั้งหมด เพราะยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่มีผลต่อราคาทองไม่แพ้กัน นั่นคือเหมืองทองครับ ว่าแต่เหมืองมีผลต่อราคาทองอย่างไร ลงทุนในเหมืองดีไหม มาอ่านไปพร้อมกันเลยครับ
เหมืองทองมีผลต่อราคาทองไหม
เหมืองทองมีผลต่อราคาทองคำในปัจจุบันอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในด้านอุปทานและต้นทุนการผลิต เนื่องจากการขุดทองในเหมืองนั้นไม่ใช่แค่ขุดหินแล้วเจอทองเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีกระบวนการการผลิตที่ซับซ้อนและใช้ต้นทุนสูง เริ่มตั้งแต่การสำรวจพื้นที่เพื่อหาทองคำ การติดตั้งเครื่องจักร การระเบิดหิน การขนส่ง การสกัดทองออกจากหิน การกลั่นทองให้บริสุทธิ์ การเก็บรักษา ไปจนถึงการส่งออก ซึ่งทุกขั้นตอนต้องใช้พลังงานจำนวนมาก โดยเฉพาะน้ำมัน ไฟฟ้า และแรงงานฝีมือจำนวนมาก เมื่อค่าใช้จ่ายในด้านใดด้านหนึ่งเพิ่มขึ้น เช่น ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่แพงขึ้น หรือค่าจ้างแรงงานในประเทศผู้ผลิตทอง (แอฟริกาใต้ ออสเตรเลีย เปรู) ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนรวมในการผลิตทองคำเพิ่มขึ้นตาม ทำให้บริษัทเหมืองทองจำเป็นต้องปรับราคาขายทองคำสูงขึ้นเพื่อรักษากำไร
ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงที่เกิดวิกฤตพลังงานหรือขาดแคลนแรงงาน ต้นทุนการผลิตทองคำอาจพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้บางเหมืองต้องหยุดการผลิตชั่วคราวหรือลดกำลังการผลิตลง ซึ่งเป็นการลดอุปทานทองคำในตลาดโดยตรงและกลายเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นตามหลักกลไกอุปสงค์-อุปทาน
เหมืองทองมีผลต่อราคาทองปัจจุบันอย่างไร
ในปี 2025 นี้มีอยู่ 2 ปัจจัยที่ทำให้เหมืองทองมีผลต่อราคาปัจจุบันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้แก่
1. ต้นทุนรวมในการผลิตทองคำ (All-in Sustaining Cost / AISC)
หากพูดถึงต้นทุนรวมในการผลิตทองคำในไตรมาสแรกของปี 2025 จะเห็นว่าพุ่งขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 1,456 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ถือเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา การปรับตัวเพิ่มขึ้นของต้นทุนนี้สะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันทางเศรษฐกิจที่บริษัทเหมืองต้องเผชิญ โดยมีสาเหตุมาจากต้นทุนในการดูแลรักษาเครื่องจักรและระบบการทำเหมืองที่เพิ่มขึ้น แต่กลับมีจำนวนการผลิตที่ลดลง ประกอบกับหลายๆ ประเทศเริ่มมีการเรียกเก็บค่าภาษีและค่าภาคหลวง (ภาษีที่รัฐเรียกเก็บจากการทำเหมือง) ในอัตราที่สูงขึ้น และท้ายที่สุดก็ส่งผลต่อราคาทองคำในตลาดโลกเพิ่งสูงขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้
2. ปริมาณการผลิตและอุปทาน
สำหรับปริมาณการผลิตทองคำใหม่ในปี 2025 มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยราว 3.8% จากปี 2024 ซึ่งสะท้อนถึงข้อจำกัดในการขยายกำลังการผลิตของเหมืองทองทั่วโลก ทั้งข้อจำกัดด้านทรัพยากร บุคลากร หรือข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ปริมาณทองคำที่เข้าสู่ตลาดมีจำนวนน้อยลง เป็นเหตุให้ราคาทองคำสูงขึ้น
แต่ในขณะเดียวกัน ปริมาณทองคำที่เข้าสู่ตลาดจากการรีไซเคิลกลับคาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 10% เนื่องจากราคาทองคำที่สูงขึ้นบวกกับสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยในบางประเทศ จูงใจให้ใครหลายคนนำขายทองเก่านำทองมาแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดมากขึ้น
สถานการณ์เหมืองทองทั่วโลกเป็นอย่างไร
สถานการณ์ของเหมืองทองทั่วโลกในปี 2025 กำลังเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ทั้งในแง่ของการผลิต ต้นทุน และการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมโดยรวม หากพูดถึงภาคการผลิตทองคำทั่วโลกในปีนี้ คาดว่าจะถึงจุดสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 3,250 ตัน ก่อนที่จะเริ่มลดลงในปีถัดไป เนื่องจากปริมาณสำรองที่ลดลง คุณภาพแร่ที่ต่ำลง และการปิดเหมืองที่มีอายุการใช้งานยาวนาน ส่วนต้นทุนรวมในการผลิตทองคำในไตรมาสแรกของปี 2025 เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 1,456 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2010 ที่ผ่านมา
แม้จะมีความท้าทายเข้ามา แต่ราคาทองคำในปี 2025 ก็ยังคงพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยแตะระดับประมาณ 3,350 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในเดือนเมษายนนี้ แน่นอนว่าปัจจัยหลักที่มีผลดันราคาทองคำให้สูงขึ้น ยังคงเป็นเรื่องของความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ความตึงเครียดทางการค้า และความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยจากนักลงทุนเป็นหลัก
ถ้าอยากลงทุนในเหมืองทอง ตอนนี้คุ้มอยู่ไหม
แม้ว่าบริษัทเหมืองทองจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ตามการลงทุนในบริษัทเหมืองทองก็ยังมีข้อดีที่น่าสนใจหลายข้อ ไม่ว่าจะเป็นรายได้ของเหมืองทองที่เพิ่มขึ้นตามราคาทองคำที่ทำสถิติสูงสุดใหม่แตะ $3,350 ต่อออนซ์ (ข้อมูลเดือนเมษายน 2025) ยิ่งบริษัทไหนที่มีศักยภาพในการควบคุมต้นทุนได้ดี ทั้งมีแหล่งแร่คุณภาพสูง มีแรงงานราคาถูก และมีนโยบายภาษีสนับสนุน ก็ยิ่งทำให้กำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นได้อีกเรื่อยๆ
เพียงแต่การลงทุนในเหมืองทองคำก็มีข้อควรระวังเหมือนกัน เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นต่อเนื่องและการผลิตเริ่มถึงจุดอิ่มตัว (Peak Production Year) ของอุตสาหกรรมทอง หากปีถัดไปมีปริมาณการขุดลดลง แต่ค่าใช้จ่ายคงเดิม อาจกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทเหมืองหลายๆ แห่งได้เช่นกัน หรือแม้แต่ความไม่แน่นอนจากนโยบายรัฐ เช่น ประเทศกานาเริ่มมีนโยบายให้บริษัทต่างชาติถอนตัวจากตลาดทองภายในเมษายน 2025 สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าการลงทุนในเหมืองทองอาจมีความเสี่ยงด้านกฎหมายและนโยบายของประเทศเจ้าของทรัพยากร พูดง่ายๆ คือนักลงทุนที่ถือหุ้นหรือมีโครงการเหมืองทองในประเทศนี้อาจเสี่ยงต่อการถูกยึดสิทธิการดำเนินงาน สูญเสียทรัพย์สิน หรือถูกจำกัดสิทธิ์ในการส่งออกและทำกำไร อีกทั้งนโยบายนี้ก็ไม่ได้มีการชดเชยอย่างเป็นธรรมในด้านใดให้แก่ผู้ลงทุนแม้แต่น้อย นำไปสู่การขาดทุนมหาศาลแม้ว่าโครงการจะทำกำไรได้ดีหรือมีศักยภาพสูงในระยะยาวก็ตาม
ลงทุนในเหมืองทองอย่างไรให้ปลอดภัย
หากคุณเป็นนักลงทุนที่เน้นความเสี่ยงต่ำ เราขอแนะนำการลงทุนผ่าน ETF เหมืองทอง เช่น VanEck Gold Miners (GDX) หรือ SPDR Gold Shares (GLD) เพราะจะช่วยกระจายความเสี่ยงผ่านการถือครองหุ้นของหลายบริษัทหรือสินทรัพย์ทองคำจริง คุณจึงไม่ต้องกังวลกับความผันผวนหรือปัญหาของเหมืองรายใดรายหนึ่งโดยเฉพาะ แต่หากคุณยอมรับความเสี่ยงได้มากและสามารถวิเคราะห์การลงทุนทองในเชิงลึกได้ เราขอแนะนำการลงทุนในหุ้นของเหมืองทองรายตัวที่มีต้นทุนการผลิตต่ำและมีแนวโน้มว่าจะทำกำไรสูง เช่น Newmont Corporation, Barrick Gold หรือบริษัทเหมืองในประเทศที่มีกฎหมายมั่นคงและมีการสนับสนุนการลงทุน อย่างประเทศแคนาดาและออสเตรเลีย
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เราไม่แนะนำให้ลงเงินก้อนใหญ่ในคราวเดียว แต่ให้ทยอยลงทุน (DCA) เพื่อเฉลี่ยความเสี่ยงและติดตามปัจจัยสำคัญอย่างต่อเนื่อง ทั้งนโยบายของธนาคารกลางโลก อัตราดอกเบี้ย และรายงานผลประกอบการของบริษัทเหมืองที่คุณลงทุน เพราะสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อราคาทองและมูลค่าการลงทุนของคุณโดยตรง หากคุณไม่ศึกษาข้อมูลให้ดีก็อาจเสี่ยงต่อการขาดทุนได้ง่ายๆ เลยครับ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: ลงทุนบริษัททองดีไหม เหมาะกับใคร เริ่มลงทุนอย่างไรดี
บทความที่น่าสนใจ
- แนวโน้มการลงทุนในทองคำตลาดโลกเป็นอย่างไร สายลงทุนต้องรู้
- รวมข้อควรรู้ก่อนลงทุนทองสำหรับมือใหม่
- ลงทุนทองคํา มือใหม่ เริ่มต้นยังไงดี เรามีข้อมูลมาฝาก
ซื้อขายทองที่ไหนดี ทำไมต้อง Gold Max
Goldmax เป็นบริษัทชั้นนำที่ดำเนินธุรกิจ ซื้อ ขาย สกัดทองคำแท้มามากกว่า 30 ปี เราจึงมีทั้งประสบการณ์ ทักษะและความเชี่ยวชาญด้านการสกัดทองคำด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัยที่ได้รับการรับรองและมีมาตรฐานระดับโลก เรามีบริการรับซื้อเครื่องเพชร แหวนพลอย งานโบราณ และทอง K ทุกชนิด ทั้งมีใบเซอร์และไม่มีใบเซอร์ เรารับซื้อจิวเวลรี่และนาฬิกาแบรนด์ชั้นนำโดยพร้อมให้วงเงินแก่คุณได้ไม่จำกัด คุยง่าย จบไว จ่ายเงินสดทันที เลือกรับเงินสดหรือโอนเข้าบัญชีธนาคารก็ได้ตามที่คุณสะดวก นอกจากนี้เรายังมีบริการขายฝากทองด้วยขั้นตอนที่สะดวก รวดเร็ว สามารถทำธุรกรรมผ่านมือถือได้ตลอด 24 ชม. แถมยังรับสิทธิ์ได้ทรัพย์คืน วงเงินสูง ดอกเบี้ยต่ำ รับเงินทันที หรือหากคุณกำลังมองหาสินค้าแบรนด์เนมอยู่ ทางเราก็มีบริการช้อปออนไลน์ จำหน่ายสินค้าหลุดจำนำ รับประกันของแท้ทุกชิ้นผ่าน APPLICATION GOLD MAX ได้ทั้ง apple และ android
หรือหากคุณไม่สะดวกเดินทางมาหน้าร้านด้วยตัวเองหรือยังกังวลเกี่ยวกับสภาวะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คุณสามารถส่งสินค้าทางไปรษณีย์ หรือแมสเซนเจอร์เพื่อให้เราประเมินราคาได้ หลังจากทางร้านได้รับสินค้าและตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว เราจะโทรแจ้งราคาประเมินให้คุณทราบทันที และเมื่อตกลงราคาได้แล้วทางร้านจะโอนเงินให้คุณโดยเร็วที่สุด หรือกรณีลูกค้ายังไม่พอใจในราคาที่เราเสนอไป ทางร้านจะดำเนินการจัดส่งกลับให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด