กองทุนทองคำ

กองทุนทองคําคืออะไร ลงทุนอย่างไรให้ได้กำไรงาม

ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ยังคงได้รับความนิยมจากนักลงทุนทั่วโลก เนื่องจากมีคุณสมบัติเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี แต่การลงทุนในทองคำแท่งอาจมีต้นทุนในการจัดเก็บและสภาพคล่องต่ำ ซึ่งกองทุนทองคำก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์นักลงทุนทองคำในปัจจุบัน ว่าแต่กองทุนประเภทนี้คืออะไร บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกันครับ

กองทุนทองคําคืออะไร

เป็นกองทุนรวมที่นำเงินของเราไปลงทุนในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับทองคำ เช่น ทองคำแท่ง, กองทุน ETF ทองคำ, หุ้นเหมืองทอง หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยมูลค่าของกองทุนจะเปลี่ยนแปลงตามราคาทองคำในตลาดโลก ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น อัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ  ความต้องการทองคำในภาคอุตสาหกรรมและเครื่องประดับ และวิกฤตเศรษฐกิจหรือความไม่แน่นอนทางการเมือง

กองทุนทองคำมีกี่แบบ อะไรบ้าง

1. กองทุนที่ลงทุนในทองคำแท่งโดยตรง (Physical Gold Fund)

กองทุนรวมที่นำเงินของนักลงทุนไปซื้อทองคำแท่งจริงๆ และเก็บรักษาไว้ในคลังของผู้ดูแลกองทุนอย่างธนาคารกลางหรือสถาบันการเงินที่ได้รับการรับรอง เช่น London Bullion Market Association (LBMA) จุดเด่นของกองทุนประเภทนี้คือไม่มีความเสี่ยงด้านสัญญาซื้อขายล่วงหน้า จึงไม่ต้องกังวลในเรื่องของสัญญาหมดอายุเหมือนกองทุน Gold Futures เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการเก็บทองคำเป็นสินทรัพย์ระยะยาว เพียงแต่

2. กองทุน ETF ทองคำ (Gold ETFs)

เป็นกองทุนรวมที่ลงทุนในทองคำแท่ง 99.99% หรือสินทรัพย์เกี่ยวกับทองคำ และมีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เหมือนหุ้น โดยราคาซื้อทองคำแท่งจะต่ำกว่าการซื้อทองเอง เนื่องจากไม่ต้องเสียค่าฝากทองหรือค่าจัดเก็บใดๆ ส่วนราคาของ Gold ETF จะเคลื่อนไหวตามราคาทองคำโลก ทั้งนี้กองทุน ETF ทองคำ อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการถือครอบทองคำในระยะยาว เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงและมีต้นทุนการถือครองที่สูง เช่น ค่าโรลโอเวอร์ของสัญญา Futures ที่อาจทำให้ผลตอบแทนลดลงเมื่อถือในระยะยาว

กองทุน ETF ให้เลือกทั้งในไทยและต่างประเทศ ช่วยให้นักลงทุนเลือกลงทุนได้ตามความเหมาะสม Gold ETF มีทั้งแบบที่ลงทุนในทองคำแท่งโดยตรง เช่น SPDR Gold Shares (GLD) และ iShares Gold Trust (IAU), Gold ETF แบบที่ลงทุนในตราสารอนุพันธ์ทองคำ เช่น ProShares Ultra Gold (UGL) และ DB Gold Double Long ETN (DGP) และ Gold ETF แบบสุดท้ายที่เน้นลงทุนในหุ้นเหมืองทองคำ เช่น Barrick Gold, Newmont Corporation

3. กองทุนที่ลงทุนในหุ้นเหมืองทองคำ (Gold Mining Fund)

เป็นกองทุนที่นำเงินไปลงทุนในหุ้นของบริษัทเกี่ยวกับการขุดเจาะและผลิตทองคำ แทนการลงทุนในทองคำแท่งโดยตรง ข้อดีของกองทุนประเภทนี้คือการให้ผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนทองคำแท่ง ได้รับปันผลจากบริษัทเหมืองทองคำ มีโอกาสเติบโตสูง หากบริษัทเหมืองมีแนวโน้มว่าจะเติบโตในระยะยาว

เพียงแต่กองทุนประเภทนี้อาจมีความเสี่ยงจากปัจจัยนอกเหนือจากราคาทองคำ ทั้งต้นทุนการผลิต นโยบายรัฐบาล และภาวะเศรษฐกิจ ที่อยู่นอกเหนือจากราคาทองคำ มีความผันผวนสูงกว่าราคาทองคำแท่งหากบริษัทบริหารไม่ดีพอหรือมีปัญหาด้านกฎหมาย ตัวอย่างกองทุนที่ลงทุนในหุ้นเหมืองทองคำ เช่น VanEck Vectors Gold Miners ETF (GDX) ที่ลงทุนในบริษัทเหมืองทองคำขนาดใหญ่อย่าง Newmont Corporation และ Barrick Gold หรือกองทุนไทยที่ลงทุนผ่าน SCBGOLDH และ KT-GOLD

4. กองทุนทองคำที่มีการใช้อนุพันธ์ (Gold Derivatives Funds)

เป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารอนุพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับทองคำ เช่น สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า (Gold Futures), ตัวเลือก (Options), สวอป (Swaps) หรือ ETF ที่ใช้เลเวอเรจ (Leveraged Gold ETF) แทนการลงทุนในทองคำแท่งโดยตรง กองทุนประเภทนี้มีจุดเด่นตรงที่เพิ่มผลตอบแทนหากราคาทองคำเป็นไปตามที่คาด และป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนโดยใช้กลยุทธ์อนุพันธ์ เช่น การทำเฮดจ์ (Hedging) หรือการเพิ่มเลเวอเรจ (Leverage) อีกทั้งยังทำกำไรได้แม้อยู่ในช่วงขาลงก็ตาม หากบางกองทุนใช้กลยุทธ์ Short Selling เพียงแต่กองทุนประเภทนี้ไม่เหมาะต่อการลงทุนในระยะยาว เนื่องจากมีต้นทุนแฝงที่สูง อย่างเลเวอเรจและค่าธรรมเนียมการโรลโอเวอร์ ทำให้ผลตอบแทนลดลงเมื่อถือครองเป็นเวลานาน  ยกตัวอย่างกองทุนทองคำที่มีการใช้อนุพันธ์ เช่น ProShares Ultra Gold (UGL), Direxion Daily Gold Miners Index Bull 3X Shares (NUGT), SCBGOLDH (บลจ. ไทยพาณิชย์) และ KT-GOLD (บลจ. กรุงไทย)

ลงทุนในกองทุนทองคำ ดียังไง

  • ไม่ต้องเก็บทองเอง จึงไม่ต้องกังวลในเรื่องของความปลอดภัยในการเก็บรักษาทองคำ ไม่ต้องกลัวโจรมาปล้นทอง หรือทองเสื่อมสภาพจากการเก็บรักษาไม่ถูกวิธี
  • สภาพคล่องสูง การซื้อขายในกองทุนนั้นสามารถได้ง่าย โดยเฉพาะกองทุน ETF นื่องจากไม่ต้องเสียค่าฝากทองหรือค่าจัดเก็บใดๆ จึงลดต้นทุนได้ประมาณนึง
  • กระจายความเสี่ยง เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ผูกติดกับดอกเบี้ย จึงช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและความผันผวนของตลาดหุ้นได้เป็นอย่างดี
  • เข้าถึงตลาดโลกได้ง่าย การลงทุนทองคำผ่านกองทุนทองคำจะใช้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ที่ใช้กันทั่วโลก อีกทั้งกองทุนลงทุนทองคำส่วนใหญ่เป็นกองทุนชั้นนำจากต่างประเทศ จึงช่วยให้ซื้อขายทองได้ง่ายโดยไม่ต้องเสียเวลาไปทำเอง

ลงทุนในกองทุนทองคำ มีข้อควรระวังอะไรบ้าง

1. ไม่มีผลตอบแทนในรูปของเงินปันผล

ทองคำไม่ขึ้นตรงกับดอกเบี้ย จึงสร้างกระแสเงินสดไม่ได้เหมือนหุ้นหรือพันธบัตร

2. ค่าธรรมเนียมสูงกว่าการซื้อทองเอง

เนื่องจากเป็นการลงทุนโดยมีผู้บริหารความเสี่ยงให้ จึงต้องมีค่าธรรมเนียมการบริหารกองทุนและค่าดูแลการจัดเก็บที่ต้องเสียเป็นรายปี

3. ราคาผันผวนสูง

ราคาทองคำมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงอย่างรวดเร็วตามภาวะตลาดทองคำโลก หากศึกษาข้อมูลไม่ดีพอ ตัดสินใจซื้อขายเพราะตามคนอื่นหรือความวิตกกังวล ก็อาจทำให้นักลงทุนซื้อขายผิดช่วงเวลาและขาดทุนได้ง่ายๆ

4. อัตราแลกเปลี่ยน (Exchange Rate)

เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลกระทบโดยตรงต่อการลงทุนในกองทุนทองคำ โดยเฉพาะกองทุนที่ลงทุนผ่านตลาดต่างประเทศ เช่น SPDR Gold Trust (GLD) หรือกองทุนที่อ้างอิงราคาทองคำโลก ซึ่งใช้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ซึ่งการที่นักลงทุนไทยไปซื้อกองทุนทองคำนั้นจะต้องมีการแปลงค่าเงินระหว่าง บาท (THB) กับดอลลาร์สหรัฐ (USD) เสียก่อน ดังนั้นมูลค่าของกองทุนจึงได้รับอิทธิพลจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนด้วย

หากค่าเงินบาทอ่อนค่า ราคากองทุนทองคำในไทยก็สูงขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ราคาทองคำอยู่ที่ 2,000 USD/ออนซ์ หากเงินบาทอ่อนค่าจาก 34 เป็น 36 บาท/USD ราคาทองคำในไทยจะเพิ่มขึ้นจาก 68,000 บาท เป็น 72,000 บาทต่อออนซ์ แต่หากค่าเงินบาทแข็งค่า ราคากองทุนทองคำในไทยก็จะลดลงตาม เช่น ราคาทองคำอยู่ที่ 2,000 USD/ออนซ์ หากเงินบาทแข็งค่าจาก 36 เป็น 34 บาท/USD ราคาทองคำในไทยจะลดลงจาก 72,000 บาท เหลืออยู่ 68,000 บาทต่อออนซ์

แต่ถึงอย่างไรก็ดีบางกองทุนทองคำได้มีการทำ Hedging เพื่อป้องกันความเสี่ยงค่าเงินและลดผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ดังนั้นนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับราคาทองคำโลกโดยได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทไม่มากนัก

ปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำ

  • ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) หากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ราคาทองคำมักจะสูงขึ้น
  • อัตราเงินเฟ้อ หากเงินเฟ้อสูง ทองคำจะเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยม
  • นโยบายธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) หากดอกเบี้ยสูงขึ้น ราคาทองคำมักลดลง
  • วิกฤตเศรษฐกิจและสงคราม เวลามีความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจ คนจะหันมาลงทุนในทองคำ
  • อุปสงค์และอุปทาน ความต้องการทองคำในอุตสาหกรรม เครื่องประดับ และการลงทุนมีผลต่อราคา

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: ราคาทองลงตอนไหน ควรซื้อทองไหม สังเกตได้จากอะไรบ้าง

สุดท้ายนี้หากคุณต้องการลงทุนในกองทุนทองคำจริงๆ เราขอแนะนำให้คุณศึกษาข้อมูลของแต่ละกองทุนให้ดี เพราะถ้าคุณศึกษาไม่ดีหรือเลือกลงตามคนอื่น ก็อาจเสี่ยงต่อการขาดทุนได้ง่าย หรืออาจได้กำไรไม่ตรงตามใจหวังไว้อีกด้วยครับ

บทความที่น่าสนใจ

ขายกรอบพระทองที่ไหนดี ทำไมต้อง Gold Max

Goldmax เป็นบริษัทชั้นนำที่ดำเนินธุรกิจ ซื้อ ขาย สกัดทองคำแท้มามากกว่า 30 ปี เราจึงมีทั้งประสบการณ์ ทักษะและความเชี่ยวชาญด้านการสกัดทองคำด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัยที่ได้รับการรับรองและมีมาตรฐานระดับโลก เรามีบริการรับซื้อเครื่องเพชร แหวนพลอย งานโบราณ และทอง K ทุกชนิด ทั้งมีใบเซอร์และไม่มีใบเซอร์ เรารับซื้อจิวเวลรี่และนาฬิกาแบรนด์ชั้นนำโดยพร้อมให้วงเงินแก่คุณได้ไม่จำกัด คุยง่าย จบไว จ่ายเงินสดทันที เลือกรับเงินสดหรือโอนเข้าบัญชีธนาคารก็ได้ตามที่คุณสะดวก นอกจากนี้เรายังมีบริการขายฝากทองด้วยขั้นตอนที่สะดวก รวดเร็ว สามารถทำธุรกรรมผ่านมือถือได้ตลอด 24 ชม. แถมยังรับสิทธิ์ได้ทรัพย์คืน วงเงินสูง ดอกเบี้ยต่ำ รับเงินทันที หรือหากคุณกำลังมองหาสินค้าแบรนด์เนมอยู่ ทางเราก็มีบริการช้อปออนไลน์ จำหน่ายสินค้าหลุดจำนำ รับประกันของแท้ทุกชิ้นผ่าน APPLICATION GOLD MAX ได้ทั้ง apple และ android

และที่สำคัญหากคุณไม่สะดวกเดินทางมาหน้าร้านด้วยตัวเองหรือยังกังวลเกี่ยวกับสภาวะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คุณสามารถส่งสินค้าทางไปรษณีย์ หรือแมสเซนเจอร์เพื่อให้เราประเมินราคาได้ หลังจากทางร้านได้รับสินค้าและตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว เราจะโทรแจ้งราคาประเมินให้คุณทราบทันที และเมื่อตกลงราคาได้แล้วทางร้านจะโอนเงินให้คุณโดยเร็วที่สุด หรือกรณีลูกค้ายังไม่พอใจในราคาที่เราเสนอไป ทางร้านจะดำเนินการจัดส่งกลับให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

บทความที่คุณอาจสนใจ