ทองคำแท่งมีกี่ขนาด ขนาดไหนเหมาะกับมือใหม่เริ่มลงทุนทองคำ

ทองคำแท่งมีกี่ขนาด ขนาดไหนเหมาะกับมือใหม่เริ่มลงทุนทองคำ

ทองคำแท่งมีกี่ขนาด? เชื่อได้ว่าเป็นคำถามที่เหล่านักลงทุนทองคำหลาย ๆ ท่านกำลังหาคำตอบกันอยู่อย่างแน่นอน ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีครับว่า “ทองคำแท่ง” ถือเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมในทุกยุคสมัย โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน นักลงทุนจำนวนมากมักเลือกเก็บทองคำแท่งไว้เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการรักษามูลค่าเงินของตัวเอง เพราะทองคำไม่เพียงแต่มีมูลค่าที่มั่นคง แต่ยังสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ง่ายในทุกช่วงเวลา สำหรับผู้ที่กำลังเริ่มต้นและมีคำถามว่า “ทองคำแท่งมีกี่ขนาด” หรือ “ควรเริ่มจากขนาดไหนดี”  วันนี้เรามีคำแนะนำสำหรับมือใหม่ที่อยากเริ่มลงทุนอย่างมั่นใจมาฝากครับ

ทองคำแท่งมีกี่ขนาด รวมข้อมูลขนาดและน้ำหนักทองคำแท่ง พร้อมราคาล่าสุด

ทองคำแท่งถือเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยและได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจผันผวน หลายคนเริ่มมองหาวิธีเก็บมูลค่าในรูปแบบที่มั่นคงกว่าเงินสด หนึ่งในคำถามที่มือใหม่มักสงสัยคือ “ทองคำแท่งมีกี่ขนาด” และ “ควรเริ่มลงทุนจากขนาดไหนดี” บทความนี้ Goldmax จะพาไปรู้จักทุกขนาดของทองคำแท่ง พร้อมคำแนะนำการเลือกขนาดให้เหมาะกับงบและเป้าหมายของคุณ

ทองคำแท่งมีกี่ขนาดในประเทศไทย?

ทองคำแท่งที่จำหน่ายในประเทศไทยส่วนใหญ่จะมีความบริสุทธิ์อยู่ที่ 96.5% ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้รับการรับรองจากสมาคมค้าทองคำ และเป็นเกณฑ์ที่ร้านทองชั้นนำ รวมถึง Goldmax ใช้ในการรับซื้อและจำหน่ายทองคำแท่งทุกชิ้น

การวัดน้ำหนักทองคำในประเทศไทยจะใช้หน่วย “บาททองคำ” โดย 1 บาททองคำมีน้ำหนักประมาณ 15.16 กรัม เป็นหน่วยที่คนไทยคุ้นเคยและสะดวกต่อการซื้อขายในตลาดทองภายในประเทศ

ทองคำแท่งมีให้เลือกหลายขนาด เพื่อให้เหมาะกับงบประมาณและเป้าหมายของผู้ลงทุนในแต่ละระดับ ซึ่งขนาดที่นิยมในประเทศไทยมีดังนี้ครับ…

ทองคำแท่งขนาด 0.25 บาท (1 สลึง)

ขนาดเล็กที่สุดที่พบได้ทั่วไป เหมาะกับผู้ที่เริ่มต้นออมทองคำหรือต้องการสะสมทีละน้อย มีน้ำหนักประมาณ 3.79 กรัม ราคาย่อมเยาและพกพาง่าย นิยมซื้อเป็นของขวัญหรือของฝาก เนื่องจากมูลค่าไม่สูงเกินไปและสามารถแลกเปลี่ยนได้ง่าย

ทองคำแท่งขนาด 0.5 บาท (2 สลึง)

น้ำหนักประมาณ 7.58 กรัม เป็นขนาดที่หลายคนเริ่มต้นสะสมจริงจังขึ้นมา เพราะมีมูลค่ามากขึ้นแต่ยังอยู่ในระดับที่เข้าถึงได้ง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทยอยลงทุนเป็นระยะ เช่น ซื้อเดือนละก้อนเล็ก ๆ เพื่อเก็บสะสมในระยะยาว

ทองคำแท่งขนาด 1 บาท

ถือเป็นขนาดยอดนิยมที่สุดในตลาดทองคำไทย เพราะมีราคาสมเหตุสมผล ซื้อขายง่าย และเป็นที่ต้องการของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ขนาดนี้จึงเหมาะกับมือใหม่ที่เริ่มเข้าสู่การลงทุนทองคำอย่างจริงจัง สามารถซื้อเก็บไว้ระยะยาว หรือขายคืนได้สะดวกเมื่อต้องการใช้เงิน

ทองคำแท่งขนาด 5 บาท

น้ำหนักประมาณ 75.8 กรัม เหมาะกับผู้ที่มีงบลงทุนระดับกลางถึงสูง จุดเด่นของขนาดนี้คือราคาต่อบาทคุ้มค่ากว่าการซื้อทองแท่งขนาดเล็กหลายชิ้น เพราะช่วยประหยัดค่าธรรมเนียมบางส่วน อีกทั้งยังเป็นขนาดที่เหมาะสำหรับการถือครองเพื่อกระจายความเสี่ยงจากเงินสด

ทองคำแท่งขนาด 10 บาท

น้ำหนักประมาณ 151.6 กรัม เป็นขนาดมาตรฐานของนักลงทุนทองคำมืออาชีพ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการถือทองในระยะยาวหรือใช้เก็บเป็นสินทรัพย์สำรองในยามฉุกเฉิน ราคาต่อบาทจะยิ่งคุ้มขึ้นเมื่อเทียบกับขนาดเล็ก และสามารถสร้างผลตอบแทนได้ชัดเจนหากราคาทองปรับตัวขึ้นในระยะยาว

นอกจากขนาดที่ใช้หน่วยบาททองคำแล้ว ยังมีทองคำแท่งที่ผลิตตามมาตรฐานสากลในหน่วย “กรัม” เช่น 1 กรัม, 5 กรัม, 10 กรัม, 50 กรัม และ 100 กรัม ซึ่งได้รับการรับรองจากสถาบันระดับโลกอย่าง LBMA (London Bullion Market Association) ทองรูปแบบนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนทองคำในมาตรฐานสากล หรือผู้ที่มีแผนซื้อขายในต่างประเทศ

โดยสรุปแล้ว ทองคำแท่งมีหลายขนาดให้เลือกตามงบประมาณและเป้าหมายของแต่ละคน หากเป็นมือใหม่ อาจเริ่มจากขนาดเล็กเพื่อเรียนรู้กระบวนการซื้อขายก่อน ส่วนผู้ที่ต้องการเก็บทองคำระยะยาวหรือใช้เป็นสินทรัพย์สำรอง ขนาด 5–10 บาทอาจเหมาะสมกว่า การเลือกซื้อจากร้านที่น่าเชื่อถือ เช่น Goldmax จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ในมาตรฐานทองคำแท้และความปลอดภัยในการซื้อขายครับ

ราคาทองคำแท่งแต่ละขนาดคำนวณอย่างไร?

การเข้าใจวิธีคำนวณราคาทองคำแท่งถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุน เพราะราคาทองไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาทองคำโลกเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงราคาทองคำภายในประเทศที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำในแต่ละวันด้วย

ราคาทองคำแท่งในประเทศไทยจะอิงจากราคาทองคำแท่ง 96.5% ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับร้านทองทั่วประเทศ โดยไม่มีค่ากำเหน็จเหมือนทองรูปพรรณ ราคาที่ลูกค้าจ่ายจะขึ้นอยู่กับ “ราคาทองคำต่อบาท” คูณด้วยน้ำหนักที่ต้องการซื้อ เช่น หากราคาทองคำแท่งวันนี้อยู่ที่ 40,000 บาทต่อบาททองคำ และคุณต้องการซื้อทองคำแท่งขนาด 1 บาท ราคาที่ต้องจ่ายคือ 40,000 บาท หากเป็นทองขนาด 5 บาท ก็เท่ากับ 200,000 บาทโดยประมาณ

อย่างไรก็ตาม บางร้านอาจมีค่าธรรมเนียมบริการเล็กน้อย เช่น ค่าจัดทำใบรับรองหรือค่าบรรจุทองคำ ซึ่งแตกต่างกันไปตามนโยบายของแต่ละร้าน แต่โดยทั่วไปทองคำแท่งถือว่ามีต้นทุนต่ำกว่าเมื่อเทียบกับทองรูปพรรณ เพราะไม่มีค่ากำเหน็จ

เมื่อจะขายคืน ราคาทองคำแท่งจะอิงกับ “ราคารับซื้อคืน” ของวันนั้น ซึ่งมักจะประกาศโดยสมาคมค้าทองคำเช่นกัน หากราคาทองในตลาดปรับขึ้น ผู้ถือทองก็จะได้ส่วนต่างเป็นกำไรจากการลงทุน

สำหรับผู้ที่ต้องการตรวจสอบราคาทองคำแท่งแบบเรียลไทม์ สามารถเช็กราคาประจำวันได้ที่เว็บไซต์ของ Goldmax ซึ่งอัปเดตราคาตามประกาศสมาคมค้าทองคำทุกวัน เพื่อช่วยให้คุณวางแผนการลงทุนได้แม่นยำและคุ้มค่าที่สุดครับ

มือใหม่ควรเริ่มลงทุนทองคำแท่งขนาดไหนดี

สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นลงทุนทองคำ สิ่งแรกที่ควรพิจารณาคือ “งบประมาณ” และ “เป้าหมายของการลงทุน” เพราะขนาดของทองคำแท่งจะส่งผลโดยตรงต่อทั้งต้นทุนและความคล่องตัวในการซื้อขาย

  • เริ่มจากขนาดเล็กเพื่อสร้างความมั่นใจ มือใหม่ที่ยังไม่คุ้นชินกับกระบวนการซื้อขายทองคำ สามารถเริ่มจากทองคำแท่งขนาด 0.25–1 บาท เพราะมีราคาย่อมเยาและเสี่ยงน้อย สามารถทยอยซื้อสะสมได้ทีละน้อย และหากต้องการขายก็ทำได้ง่ายโดยไม่กระทบต่อพอร์ตการลงทุนโดยรวม
  • เหมาะสำหรับผู้มีงบมากขึ้นและเน้นเก็บระยะยาว หากคุณมีงบประมาณมากขึ้นและต้องการถือทองคำไว้ระยะยาว ขนาด 5–10 บาทจะเหมาะสมกว่า เพราะราคาต่อบาทถูกกว่าเมื่อเทียบกับการซื้อทองขนาดเล็กหลายชิ้น อีกทั้งช่วยประหยัดค่าธรรมเนียมและเพิ่มโอกาสทำกำไรได้มากขึ้นหากราคาทองปรับตัวขึ้นในอนาคต

ไม่ว่าจะเลือกขนาดไหน สิ่งสำคัญคือควรซื้อจากร้านทองที่มีความน่าเชื่อถือ ตรวจสอบได้ มีใบรับรองมาตรฐานทองคำแท่งชัดเจน เช่น Goldmax ซึ่งให้บริการรับซื้อ–ขายทองคำแท่งมาตรฐาน พร้อมคำแนะนำจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้มือใหม่ลงทุนได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยครับ

เคล็ดลับเลือกซื้อทองคำแท่งให้คุ้มและปลอดภัย

การเลือกซื้อทองคำแท่งไม่ใช่เพียงแค่ดูราคาทองในแต่ละวัน แต่ยังต้องพิจารณาหลายปัจจัยร่วมกัน ทั้งเรื่องของความน่าเชื่อถือของร้าน คุณภาพทอง และมาตรฐานการรับรอง เพื่อให้มั่นใจว่าทองที่คุณซื้อมานั้นเป็นทองแท้ และสามารถขายคืนได้ในราคาที่เป็นธรรม

สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อทองคำแท่ง มีดังนี้ครับ…

  1. เลือกร้านทองที่มีใบอนุญาตถูกต้อง  ควรเลือกซื้อจากร้านที่ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจอย่างถูกต้อง และเป็นสมาชิกของสมาคมค้าทองคำ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการซื้อทองปลอมหรือทองคุณภาพต่ำ
  2. ตรวจสอบตราประทับและโลโก้โรงงานผลิต ทองคำแท่งทุกชิ้นควรมีการประทับตราน้ำหนัก โลโก้ของโรงงาน หรือสัญลักษณ์ที่รับรองมาตรฐานชัดเจน รวมถึงมีใบรับประกันและใบเสร็จรับรองการซื้อขายทุกครั้ง
  3. เปรียบเทียบราคาขายและราคารับซื้อคืน โดยก่อนตัดสินใจ ควรเปรียบเทียบราคาทองระหว่างร้านต่าง ๆ โดยเฉพาะส่วนต่างระหว่าง “ราคารับซื้อ” กับ “ราคาขาย” เพราะอาจส่งผลต่อกำไรหรือความคุ้มค่าในอนาคต
  4. พิจารณาบริการหลังการขาย ร้านทองที่มีบริการหลังการขาย เช่น การตรวจสอบทอง การซื้อคืน หรือการให้คำปรึกษาด้านการลงทุน จะช่วยให้การลงทุนของคุณเป็นไปอย่างมั่นใจและยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม Goldmax เป็นหนึ่งในร้านทองที่ให้ความสำคัญกับมาตรฐานทองคำแท่งทุกชิ้น โดยมีการตรวจสอบคุณภาพก่อนจำหน่าย พร้อมอัปเดตราคาทองคำแบบเรียลไทม์ และให้คำปรึกษาการลงทุนจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ลูกค้าทุกคนมั่นใจได้ว่าทุกขั้นตอนของการซื้อขายทองคำเป็นไปอย่างปลอดภัย โปร่งใส และคุ้มค่าที่สุดครับ

สรุปเกี่ยวกับ “การลงทุนทองคำแท่งแต่ละขนาด”

ทองคำแท่งเป็นการลงทุนที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการเก็บรักษามูลค่าเงินในระยะยาว และเป็นสินทรัพย์ที่ถือได้จริง ไม่ขึ้นอยู่กับตลาดดิจิทัลหรือระบบการเงินออนไลน์ ขนาดของทองคำแท่งมีให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ขนาดเล็กสำหรับผู้เริ่มต้น ไปจนถึงขนาดใหญ่ที่เหมาะกับนักลงทุนมืออาชีพ

สำหรับมือใหม่ การเริ่มต้นจากขนาดเล็กจะช่วยให้เข้าใจกระบวนการซื้อขายมากขึ้น และค่อย ๆ เพิ่มขนาดเมื่อมั่นใจมากขึ้นในอนาคต การเลือกซื้อทองคำแท่งจากร้านที่เชื่อถือได้อย่าง Goldmax จะช่วยให้คุณได้รับทองคำคุณภาพสูง ราคามาตรฐาน และบริการให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมดูแลตลอดเส้นทางการลงทุนครับ

บทความที่น่าสนใจ

ซื้อขายทองที่ไหนดี ทำไมต้อง Gold Max

Goldmax เป็นบริษัทชั้นนำที่ดำเนินธุรกิจ ซื้อ ขาย สกัดทองคำแท้มามากกว่า 30 ปี เราจึงมีทั้งประสบการณ์ ทักษะและความเชี่ยวชาญด้านการสกัดทองคำด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัยที่ได้รับการรับรองและมีมาตรฐานระดับโลก เรามีบริการรับซื้อเครื่องเพชร แหวนพลอย งานโบราณ และทอง K ทุกชนิด ทั้งมีใบเซอร์และไม่มีใบเซอร์ เรารับซื้อจิวเวลรี่และนาฬิกาแบรนด์ชั้นนำโดยพร้อมให้วงเงินแก่คุณได้ไม่จำกัด คุยง่าย จบไว จ่ายเงินสดทันที เลือกรับเงินสดหรือโอนเข้าบัญชีธนาคารก็ได้ตามที่คุณสะดวก นอกจากนี้เรายังมีบริการขายฝากทองด้วยขั้นตอนที่สะดวก รวดเร็ว สามารถทำธุรกรรมผ่านมือถือได้ตลอด 24 ชม. แถมยังรับสิทธิ์ได้ทรัพย์คืน วงเงินสูง ดอกเบี้ยต่ำ รับเงินทันที หรือหากคุณกำลังมองหาสินค้าแบรนด์เนมอยู่ ทางเราก็มีบริการช้อปออนไลน์ จำหน่ายสินค้าหลุดจำนำ รับประกันของแท้ทุกชิ้นผ่าน APPLICATION GOLD MAX ได้ทั้ง apple และ android

หรือหากคุณไม่สะดวกเดินทางมาหน้าร้านด้วยตัวเองหรือยังกังวลเกี่ยวกับสภาวะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คุณสามารถส่งสินค้าทางไปรษณีย์ หรือแมสเซนเจอร์เพื่อให้เราประเมินราคาได้ หลังจากทางร้านได้รับสินค้าและตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว เราจะโทรแจ้งราคาประเมินให้คุณทราบทันที และเมื่อตกลงราคาได้แล้วทางร้านจะโอนเงินให้คุณโดยเร็วที่สุด หรือกรณีลูกค้ายังไม่พอใจในราคาที่เราเสนอไป ทางร้านจะดำเนินการจัดส่งกลับให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

บทความที่คุณอาจสนใจ