ราคาทองปี 2567

แนวโน้มราคาทองปี 2567 เป็นอย่างไร มีปัจจัยไหนเกี่ยวข้องบ้าง

แม้ว่าเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวหลังจากวิกฤตการณ์โควิด-19 มาได้สักพักนึงแล้ว แต่สภาพเศรษฐกิจโดยรวมทั่วโลกยังคงชะลออย่างต่อเนื่องโดยมีสาเหตุมาจากภาวะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสงครามระหว่างประเทศ, นโยบายปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 ของธนาคารกลางหลักของโลก, ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน และอื่น ๆ อีกมาก ส่งผลให้ผู้คนจับจ่ายน้อยลงและหันมาซื้อทองเก็บทุกเดือนไว้มากขึ้น ว่าแต่การซื้อเก็บทองดีจริงไหม หากคุณไม่ได้มีเงินก่อนแต่อยากเริ่มต้นลงทุนทองควรทำอย่างไรดี เดี๋ยววันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังครับ

ทำไมทองถึงเป็นที่ต้องการของตลาดโลกในปี 2567

ต้องเข้าใจก่อนนะครับว่ามีปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้ทองเป็นที่ต้องการของตลาดโลก ไม่ว่าจะเป็นมูลค่าของทองที่สูง ทำให้ธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ เก็บสะสมทองเอาไว้เป็นทุนสํารองระหว่างประเทศ, ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ยังคงดอกเบี้ยอยู่ที่ 5.5% เพื่อรักษาเสถียรภาพของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นจากภาวะสงครามใหญ่ ได้แก่ สงครามรัสเซีย-ยูเครน และสงครามอิสราเอล-กลุ่มฮามาส ซึ่งรัสเซียและกลุ่มประเทศอาหรับต่างก็เป็นผู้ขนส่งน้ำมันรายใหญ่ของโลกนั่นเอง นอกจากนี้ทองยังเป็นส่วนประกอบสำคัญในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ , เป็นชิ้นส่วนในงานเครื่องประดับราคาสูง, อุปกรณ์ทางทันตกรรม และอื่น ๆ อีกมาก ตราบใดที่ยังไม่มีแร่ธาตุชิ้นไหนที่สามารถแทนที่ทองได้ ราคาทองก็จะยังคงสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ครับ

ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองปี 2567 พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

1. ภาวะสงคราม

สงครามรัสเซีย-ยูเครน

ในปัจจุบัน (ส.ค. 2567) ภาวะสงครามในรัสเซีย-ยูเครน ยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบลงแม้แต่น้อย แถมยังขยายวงกว้างมากขึ้นด้วย ซึ่งการสงครามนี้เองจะส่งผลในด้านเศรษฐกิจโลกโดยตรง เนื่องจากสหรัฐอเมริกาและอีกหลาย ๆ ประเทศมีมาตรการคว่ำบาตรทางด้านการค้ารัสเซีย แต่รัสเซียเองก็เป็นประเทศที่ส่งออกน้ำมันและนิกเกิลมากถึง 7% ของตลาดโลก, ส่งออกไทเทเนียม (Titanium) เป็นอันดับ 2 ของโลก, ส่งออกก๊าซธรรมชาติราว 40% ของตลาดโลก, ส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor) ที่ใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์มากถึง 30% ของตลาดโลก และที่สำคัญทั้ง 2 ประเทศก็ยังเป็นประเทศที่ส่งออกธัญพืช (ข้าวสาลีและข้าวโพด) รายใหญ่ของโลก ดังนั้นหากทั้ง 2 ประเทศนี้ไม่สามารถผลิตสินค้าได้มากพอย่อมมีผลทำให้ต้นทุนการผลิตปรับเพิ่มสูงขึ้น บวกกับประเทศรัสเซียเองก็ถูกคว่ำบาตรทางการค้ากับหลาย ๆ ประเทศ โดยเฉพาะประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นและเงินเฟ้อเฉลี่ยทั่วโลกเพิ่มสูงตามด้วยเช่นกัน และเมื่อเกิดภาวะเงินเฟ้อแล้วทองจึงกลายเป็นสินทรัพย์ที่เอาชนะเงินเฟ้อได้เนื่องจากดอกเบี้ยไม่มีผลกับทอง ดังนั้นผู้คนถึงหันมาซื้อทองกันมากขึ้น

สงครามอิสราเอล-กลุ่มฮามาส

เนื่องจากพื้นที่สงครามคือภูมิภาคตะวันออกกลางซึ่งเป็นพื้นที่ที่ผลิตและส่งออกสินค้าสำคัญ ๆ อย่างน้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ และปุ๋ย ที่มีผลต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกเป็นอย่างมาก เพราะสงครามดังกล่าวอาจมีการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานน้ำมันในภูมิภาคและก่อให้เกิดความตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกาที่สนับสนุนอิสราเอลกับจีน+รัสเซียที่สร้างความสัมพันธ์กับอิหร่าน ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วอยู่ที่ 64 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรืออาจถึง 150 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเติบโตลดลงประมาณ 1% ส่วนอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้นอีก 1.2% นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์สำคัญที่ทวีความรุนแรงของสงครามนั่นคือประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเร็ตส์ได้นำหน่วยงานอิสราเอลเข้ามาดำเนินกิจการภายในประเทศอิหร่าน ซึ่งถือว่าเป็นภัยคุกคามต่ออิหร่าน ทางอิหร่านจึงตอบโต้ด้วยการขู่ปิดช่องแคบฮอร์มุซ (Strait of Hormuz) ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการส่งออกน้ำมันและส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ของกลุ่มประเทศอาหรับ หากปิดช่องแคปดังกล่าวจริงอาจทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นมากถึง 250 ดอลลาร์/บาร์เรล เลยทีเดียว

2. ธนาคารกลาง

ทองถือเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในยามที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ โดยธนาคารกลางของประเทศที่เศรษฐกิจกำลังพัฒนานั้นมีแนวโน้มที่จะเพิ่มปริมาณทองคำประมาณ 25% ในทุนสำรองระหว่างประเทศในอีก 5 ปีข้างหน้า แต่ในปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่าธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ เริ่มมีการเก็บตุนทองคำมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นประเทศอินเดียที่มีการซื้อทองเก็บไว้ตั้งแต่ปี 2560 จนสามารถเติมทองคำสำรองได้มากกว่า 260 ตัน ส่วนประเทศโปแลนด์ได้มีการเติมทองคำเพิ่มอีก 130 ตันในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ส่วนธนาคารของจีน (PBOC) แม้จะชะลอการซื้อทองคำไปแต่ก็มีแนวโน้มที่จะซื้อเก็บไว้ต่อในอนาคตเนื่องจากทุนสำรองระหว่างประเทศของจีนมีทองเพียง 4.9% เท่านั้น อาจมีการซื้อเพิ่มหากราคาทองปรับลดลง ส่วนประเทศไทยนั้นทางแบงก์ชาติได้มีการลงทุนในทองคำมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเพื่อรักษาอำนาจซื้อของไทยในตลาดโลก ซึ่งการที่ธนาคารกลางหลาย ๆ ประเทศเก็บสะสมทองคำมากขึ้นทำให้ราคาทองปรับสูงขึ้นตามอุปสงค์ของทองคำ

3. ค่าเงินดอลลาร์

ดอลลาร์เป็นสกุลเงินที่ใช้ในการซื้อขายระหว่างประเทศกันมาอย่างยาวนาน หากค่าเงินดอลลาร์อ่อนลงก็จะทำให้นักลงทุนหันมาซื้อทองคำเก็บไว้มากขึ้นเนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูง ไม่ขึ้นตรงกับดอกเบี้ย แถมยังรักษามูลค่าของตัวเองได้ กรณีที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวแต่เงินสกุลอื่นยังแข็งค่า นักลงทุนจะนำเงินสกุลอื่นมาซื้อทองเก็บไว้มากขึ้น เป็นเหตุให้ราคาทองสูงขึ้น แต่หากค่าเงินดอลลาร์แข็ง นักลงทุนก็เลือกที่จะลงทุนหรือใช้จ่ายด้วยเงินดอลลาร์แทน ราคาทองก็จะปรับลงเองครับ

ลงทุนทองดีไหม

สำหรับใครที่กำลังลังเลอยู่ว่าลงทุนทองดีไหม เราขอแนะนำให้ติดตามทั้ง 3 ปัจจัยที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้นหรือแย่ลง มีผลต่อราคาทอง ณ ขณะนั้นหรือไม่ รวมถึงเช็กราคาทองเป็นประจำจากเว็บไซต์ของสมาคมค้าทองคำ แอปพลิเคชันทอง หรือสอบถามราคากับร้านทองที่น่าเชื่อถือจะดีที่สุด เพราะถ้าคุณไม่มีศึกษาและติดตามราคาทองอย่างสม่ำเสมอแล้วก็อาจพลาดที่จะซื้อทองในราคาที่ถูกลงด้วยเช่นกัน แต่หากคุณยังไม่มีเงินก้อนแต่ต้องการลงทุนทอง แนะนำให้ออมทองกับร้านทองที่เชื่อถือได้จะดีที่สุดครับ

บทความที่น่าสนใจ

ขายทองที่ไหนดี ทำไมต้อง Gold Max

เราเป็นบริษัทชั้นนำที่ดำเนินธุรกิจ ซื้อ ขาย สกัดทองคำแท้มามากกว่า 30 ปี เราจึงมีทั้งประสบการณ์ ทักษะและความเชี่ยวชาญด้านการสกัดทองคำด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัยที่ได้รับการรับรองและมีมาตรฐานระดับโลก เรามีบริการรับซื้อเครื่องเพชร แหวนพลอย งานโบราณ และทอง K ทุกชนิด ทั้งมีใบเซอร์และไม่มีใบเซอร์ เรารับซื้อจิวเวลรี่และนาฬิกาแบรนด์ชั้นนำโดยพร้อมให้วงเงินแก่คุณได้ไม่จำกัด คุยง่าย จบไว จ่ายเงินสดทันที เลือกรับเงินสดหรือโอนเข้าบัญชีธนาคารก็ได้ตามที่คุณสะดวก นอกจากนี้เรายังมีบริการขายฝากทองด้วยขั้นตอนที่สะดวก รวดเร็ว สามารถทำธุรกรรมผ่านมือถือได้ตลอด 24 ชม. แถมยังรับสิทธิ์ได้ทรัพย์คืน วงเงินสูง ดอกเบี้ยต่ำ รับเงินทันที หรือหากคุณกำลังมองหาสินค้าแบรนด์เนมอยู่ ทางเราก็มีบริการช้อปออนไลน์ จำหน่ายสินค้าหลุดจำนำ รับประกันของแท้ทุกชิ้นผ่าน APPLICATION GOLD MAX ได้ทั้ง apple และ android

และที่สำคัญหากคุณไม่สะดวกเดินทางมาหน้าร้านด้วยตัวเองหรือยังกังวลเกี่ยวกับสภาวะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คุณสามารถส่งสินค้าทางไปรษณีย์ หรือแมสเซนเจอร์เพื่อให้เราประเมินราคาได้ หลังจากทางร้านได้รับสินค้าและตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว เราจะโทรแจ้งราคาประเมินให้คุณทราบทันที และเมื่อตกลงราคาได้แล้วทางร้านจะโอนเงินให้คุณโดยเร็วที่สุด หรือกรณีลูกค้ายังไม่พอใจในราคาที่เราเสนอไป ทางร้านจะดำเนินการจัดส่งกลับให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

บทความที่คุณอาจสนใจ