หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังจะซื้อ-ขายทองเค แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปหาแหล่งเช็กราคาทองได้ที่ไหนดี วันนี้เรามีแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับราคารับซื้อทองเคมาฝากทุกคนกันครับ

แนะนำแหล่งเช็กราคารับซื้อทองเคหาได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

1. สมาคมค้าทองคำ

เป็นผู้กำหนดและประกาศราคาทองคำของประเทศไทย โดยได้รับการยอมรับเป็นราคาอ้างอิงกลางของประเทศไทย ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการคลัง, กระทรวงพาณิชย์, ธนาคารแห่งประเทศไทย, กรมสรรพากรและหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทางสมาคมค้าทองคำได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการควบคุมราคาทองเพื่อกำกับดูแลราคาทองตลอดช่วงเวลาซื้อ-ขาย โดยการปรับ ขึ้น-ลง ราคาทองคำในประเทศตามราคาทองคำตลาดโลก, ค่าเงินบาท, อัตราค่า Premium, อุปสงค์ (Demand) และ อุปทาน (Supply) ภายในประเทศเป็นหลัก

เนื่องจากราคาทองในตลาดโลกอาจปรับขึ้น-ลงตลอดเวลา (แบบ Real time) บางวันอาจปรับราคาเพียงครั้งเดียว หรือบางวันอาจจะปรับเปลี่ยนแปลงราคาหลายครั้งก็ได้  ไม่มีการกำหนดเวลาแน่นอน สำหรับประเทศไทยนั้นราคาทองจะถูกกำหนดและประกาศโดยสมาคมค้าทองคำ โดยจะประกาศราคาครั้งแรกประมาณ 9.20 – 9.40 น. ของทุกวัน โดยจะอิงจากทุกตลาดรวมกัน แล้วนำมาคำนวณกับค่าเงินบาทแบบ Real time ดังนั้นราคาทองจึงไม่ได้ยึดตามตลาดใดตลาดหนึ่งโดยเฉพาะ

คุณสามารถตรวจสอบราคาทองในแต่ละวันได้ที่เว็บไซต์ https://www.goldtraders.or.th/ นอกจากนี้ภายในเว็บไซต์ยังมีข้อมูลข่าวราคาทองคำจากทั่วทุกมุมโลก, ราคาทองคำถัวเฉลี่ย, กราฟต่างประเทศ รวมถึงกระดานสนทนามาอัปเดตให้คุณได้อ่านและแลกเปลี่ยนความเห็นกับผู้ลงทุนทองท่านอื่นเพื่อประกอบการตัดสินซื้อ-ขายในแต่ละช่วงเวลาด้วย

2. ร้านทองที่ได้มาตรฐาน

สำหรับใครที่พักอยู่ใกล้ร้านทอง เราขอแนะนำให้เดินไปถามราคาที่หน้าร้านโดยตรง ข้อดีของการพูดคุยกับหน้าร้านโดยตรงจะช่วยให้คุณได้รู้คำตอบทันที หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามกับเจ้าหน้าที่ได้โดยตรง หรือหากคุณมีแพลนว่าจะซื้อทองคำแท่งหรือทองรูปพรรณเพื่อลงทุนเพิ่มเติม ก็เลือกดูทองเคกับทางร้านได้เลย โดยร้านที่ได้มาตรฐานจะต้องมีชื่อเสียงที่เชื่อถือได้ มีประสบการณ์การขายยาวนาน เนื่องจากร้านเหล่านี้จะมีหน้าร้านชัดเจนและมีใบอนุญาตซื้อ-ขายถูกต้องตามกฎหมาย  แต่หากคุณไม่รู้ว่ามีร้านไหนมีชื่อเสียงบ้าง แนะนำให้เสิร์ชหาข้อมูลเบื้องต้นจากเว็บไซต์ Google เนื่องจากร้านดังส่วนใหญ่จะมีช่องทางการติดต่อหลากหลายรูปแบบเพื่อรองรับลูกค้าที่มีความสะดวกแตกต่างกันไป ทั้งนี้ควรเลือกร้านที่มีช่องทางติดต่อซื้อ-ขายที่หลากหลาย ทั้ง Facebook, Line และ Instagram เพื่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้นโดยที่คุณไม่ต้องกังวลว่าจะต้องติดต่อกับร้านได้เฉพาะวันไหน ร้านจะปิดมั้ย เพราะร้านเหล่านี้มีทีมงานพร้อมตอบคำถามตลอด 24 ชม. และที่สำคัญอย่าลืมเลือกร้านที่สะดวกต่อการเดินทางด้วยนะครับ

3. แอปพลิเคชันทอง

ในปัจจุบันแอปพลิเคชันทองได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ใช้งานได้หลากหลายยิ่งขึ้น แต่เนื่องจากมีผู้พัฒนามากมาย ดังนั้นคุณจึงควรเลือกแอปที่เหมาะกับคุณโดยใช้หลักการต่าง ๆ ประกอบการตัดสินต่อไปนี้

• เลือกแอปที่เช็กราคาได้ทั้งทองคำและทองรูปพรรณ โดยทั่วไปแล้วร้านทองจะมีป้ายแสดงราคาซื้อขายทองในแต่ละวัน ซึ่งแอปเช็กทองจะตรวจสอบและแจ้งราคาทองในแอปแบบเรียลไทม์ ทั้งนี้ควรเลือกแอปที่ตรวจสอบได้ทั้งราคาทองคำแท่งและทองรูปพรรณเพื่อประเมินความคุ้มค่าและความเสี่ยงต่อการลงทุน
• เลือกแอปที่อัปเดตราคาทองแบบเรียลไทม์ ต้องเข้าใจว่าราคาทองเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามราคาตลาดโลก หากคุณต้องการราคาทองที่แม่นยำ ก็ควรเลือกแอปเช็กราคาทองที่มีการอัปเดตแบบเรียลไทม์เมื่อราคาทองปรับเปลี่ยนไป
• เลือกแอปที่น่าเชื่อถือ ก่อนดาวน์โหลดแอปเช็กราคาทอง แนะนำให้ตรวจสอบที่มาด้วยว่าใครเป็นผู้พัฒนา หรือแอปมีโฆษณาแฝงโผล่มาบ่อยหรือไม่ เพื่อให้คุณได้ข้อมูลของราคาที่ถูกต้องและไม่เสียเวลาดูโฆษณาในแอปโดยไม่จำเป็น

แนะนำแอพซื้อขายทองสำหรับมือใหม่ในวงการทองคำ

ข้อควรรู้ก่อนซื้อ-ขายทองเค

รู้หรือไม่ว่าร้านทองค้าปลีกหลายร้าน ไม่ได้เป็นผู้ผลิตทองคำแท่งด้วยตัวเอง จึงต้องไปซื้อทองจากแหล่งผลิต ไม่ว่าจะเป็นเยาวราช, บ้านหม้อ ฯลฯ เพื่อจัดจำหน่ายให้แก่ลูกค้า โดยซื้อมาตามราคาที่สมาคมค้าทองคำประกาศ ณ ขณะนั้น ดังนั้นร้านทองค้าปลีกจึงต้องบวกค่าใช้จ่ายในการขนส่งเดินทาง, ค่าเสี่ยงภัย และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ รวมถึงบวกกำไรจากการขายทองเคลงไปด้วย โดยทั่วไปจะคิดค่าใช้จ่ายประมาณ 50 – 200 บาท (ต่อทองคำแท่ง 1 บาท) ตามความใกล้ไกลจากร้านทองไปยังแหล่งซื้อทอง หากเป็นร้านทองต่างจังหวัดไกลที่ต้องนั่งเครื่องบินมาซื้อถึงแหล่งทองอาจบวกราคาเดินทางมากหน่อย ดังนั้นถ้าคุณขายทองคำแท่งคืนร้าน ทางร้านจะต้องนำทองกลับมาขายคืนให้ร้านขายส่งเช่นกัน ซึ่งจะต้องต้องบวกค่าใช้จ่ายเพิ่มทั้งตอนซื้อและขาย